แอทยอดคนนพเก้า - นิยาย แอทยอดคนนพเก้า : Dek-D.com - Writer
×

    แอทยอดคนนพเก้า

    คำนำ หลายคนที่เคยติดตามอ่านหรือรับชมภาพยนตร์แนวฮีโร่ของค่ายมาเวลอย่างอเวนเจอร์ คงจะมีความคิดฝันอยากให้เมืองไทยเรามีภาพยนตร์ในระดับโลกอย่างนี้บ้าง ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบดูภาพยนตร์แนวฮีโร่ พวกยอดมนุษย์ม

    ผู้เข้าชมรวม

    6,356

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    33

    ผู้เข้าชมรวม


    6.35K

    ความคิดเห็น


    40

    คนติดตาม


    5
    จำนวนตอน :  44 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  16 ม.ค. 67 / 23:46 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูรายการอีบุ๊กทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ตอนที่๑.ขบวนการปฏิวัติโลก

    บทประพันธ์ โดย ณัฐพัชร ทรงรัฐเศรษฐ์

     

     

    ปีพ.ศ.๒๕๘๐

     

    ณ ประเทศไทย จังหวัดสมุทรปราการ

    ตอนตี๒ครึ่งของวันศุกร์

     

    ในย่านตึกเสื่อมโทรม ที่มีตรอกอันมืดมิดและสกปรก 

    “ ใจเย็นๆสิว่ะ ของน่ะได้แน่ เขาว่าสารตัวนี้นะ ถ้าใครได้ดื่มเข้าไปจะทำให้มีประสาทสัมผัสดุจดั่งหมาป่าและหมีป่า แถมมีพละกำลังมาก มีความคล่องแคล่วเร็วไวมากยังกะลิงหรือเสือเลยนะ เป็นของที่ได้มาจากเลือดของพวกแวมไพร์นะ “

    ชายคนหนึ่งพูดขึ้น

    “เฮ๊ย แล้วแกว่าพวกแวมไพร์มีจริงหรือเปล่าล่ะ “

    ชายคนหัวหยิกพูดถามอย่างสงสัย

    “แล้วถ้าฉันบอกว่ามันมีจริงล่ะ นายจะว่ายังไง “

    ชายคนรูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาวซีดพูดขึ้น

    “ แกพูดมั่วหรือเปล่า ใครจะเคยเห็นแวมไพร์ได้บ้างล่ะ ถ้าเห็นจริงป่านนี้ไม่ถูกมันฆ่ากินเลือดไปแล้วหรือว่ะ ข้าว่าไม่มีอยู่จริงหรอกนะ เรื่องแหกตาทั้งนั้น เอาเป็นว่าวันนี้เราเลิกกันแค่นี้ กลับบ้านกันดีกว่า “

    ชายคนร่างท้วมพูดขึ้น

    “เดี๋ยวก่อนสิ พวกนายคิดว่าพวกแวมไพร์ไม่มีอยู่จริงใช่ไหม ผีดูดเลือดไม่มีอยู่จริงใช่ไหม “

    ชายคนผิวขาวรูปร่างสูงโปร่งพูดด้วยใบหน้าและท่าทางแปลกประหลาด

    “แล้วถ้าฉันแสดงให้พวกนายเห็นได้ว่าแวมไพร์มีอยู่จริง พวกนายยังจะซื้อของที่ฉันเอามาให้พวกนายลองกันไหมล่ะ “

    ชายคนผิวขาวรูปร่างสูงโปร่งพูดด้วยใบหน้าและท่าทางแปลกประหลาด

    “ เฮ๊ย ไร้สาระน่า ไอ้เอ แกกลับบ้านไปดูดนมแม่เถอะ พวกฉันจะถือว่านายมาเยี่ยมเพื่อนฝูงเท่านั้น จะไม่ถือโทษอะไรนาย “

    ชายคนร่างท้วมพูดขึ้น

    “แล้วถ้าฉันจะบอกว่าฉันนี่แหละเป็นแวมไพร์ พวกนายจะเชื่อไหมล่ะ “

    ชายคนที่ชื่อเอพูดขึ้น ด้วยท่าทางอันน่ากลัว

    “ อย่ามาพูดเล่นนะไอ้เอ มึงกลับบ้านไปเถอะ งานเลี้ยงเลิกลาโว๊ย กลับบ้านกัน “

    ชายคนร่างท้วมพูดขึ้น

    “ ไอ้เอก มึงคิดว่าตัวมึงถูกต้องและยิ่งใหญ่อยู่เสมอใช่ไหม งั้นกูจะแสดงอะไรให้มึงดูละกัน ก่อนจะตัดสินใจอะไรผิดๆไป “

    พูดจบชายคนที่ชื่อเอ ก็แสดงการปีนไต่ผนังอาคารตึก และกระโดดลอยตัวไปมาในอากาศให้ชายทั้ง๕คนดู

    “เฮ๊ย ทำไมไอ้เอ มันทำแบบนั้นได้ล่ะว่ะ หรือว่ามันจะเป็นแวมไพร์จริงๆ พวกเราหนีกันเถอะ เดี๋ยวถูกมันจับกินเลือด”

    ชายร่างท้วมพูดขึ้นด้วยอาการตื่นตกใจหวาดกลัวมาก

    “ อย่าเพิ่งหนีไปไหนซิ มาให้ฉันดูดเลือดของพวกแกก่อนโว๊ย ฉันจะต้องหาเลือดสดๆไปส่งนายของฉันที่คฤหาสน์ด้วยละน่ะ ถึงได้มาหาพวกนายยังไงล่ะ ว่าจะชวนให้ไปอยู่เป็นพวกเดียวกัน แต่เมื่อมันเป็นอย่างนี้แล้ว ก็คงต้องเอาเลือดของพวกแกไปให้นายของฉันก่อนละกัน ฮิๆๆ “

    ว่าแล้วชายคนที่ชื่อเอ ก็ลอยตัวไปในอากาศ เพื่อตามไล่ล่าจับตัวของเหล่าชายหนุ่มทั้ง๕คน แล้วจากนั้นจึงวิ่งไล่ล่าด้วยความเร็วมาก

    “อ๊าคคค “

    ชายหนุ่มหลายคนถูกเจ้าแวมไพร์เอ ทำร้ายดูดเลือดกินและเก็บเลือดใส่ขวดแก้วคล้ายขวดแชมเปญอันสวยงาม

    แล้วมันก็ตามไล่ล่าชายหนุ่มที่เหลืออีก๒คน อย่างโหดเหี้ยม

     

    “ช้าก่อนสิไอ้เจ้าผีดูดเลือด สารเลว นี่ขนาดเพื่อนของแกแท้ๆก็ยังไม่ละเว้นเลยหรือไง “

    ชายท่าทางแปลกๆ แต่ว่าทั่วร่างกายของเขามีแสงสว่างแวววาวอยู่ตลอด

    “แกเป็นใครกันว่ะ ไอ้ตัวประหลาด ทำไมทั่วตัวของแกมันแวววาวได้แบบนี้ นี่มันชุดอะไรว่ะ ทำไมมันแวววาวยังกะเป็นทองคำหรือเงินเลย “

    แวมไพร์เอพูดขึ้นอย่างสงสัย

    “ฉันจะเป็นใครก็ไม่สำคัญ แต่ว่าวันนี้ฉันต้องกำจัดแวมไพร์ชั่วอย่างแกให้หมดไปจากโลกนี้เสียก่อน “

    ชายลึกลับพูดขึ้น

    “ถ้าเก่งมากพอ ก็ลองดูสิ แกคงจะเป็นพวกนักล่าแวมไพร์ละสิ นะข้าไม่หมูอย่างตัวอื่นๆนะโว๊ย ฮ่าๆๆ “

    แวมไพร์เอพูดจบก็แสดงพลังความเร็วและอำนาจแห่งกรงเล็บของมันที่สามารถทำลายคอนกรีตได้อย่างสบาย

    “เก่งเหมือนกันนะ แต่แค่นี้กระจอกมากเลย “

    ชายลึกลับร่างสีเงินทองพูดขึ้น

    แล้วฉากการต่อสู้ระหว่างชายลึกลับร่างเงินทอง กับแวมไพร์หนุ่มเอก็เริ่มเปิดฉากขึ้นอย่างน่าตื่นเต้นมาก 

    โดยทั้งสองต่างสู้กันด้วยชั้นเชิงยุทธ์อันร้ายกาจ และทรงพลังมาก แต่แวมไพร์เอ เหมือนจะมีความเร็วช้ากว่าชายลึกลับ ร่างเงินทองมาก

    จนแวมไพร์เอถูกชายลึกลับซัดไปด้วยหมัดกับ ถีบใส่ให้หลายครั้งแล้ว

    “มีความเร็วมากนะแก แต่แกก็ต้องพลาดท่าให้กับกรงเล็บและคมเขี้ยวของข้าในที่สุด “

    แวมไพร์เอพูดขึ้นอย่างโอหัง

    แล้วการต่อสู้ก็เป็นไปอย่างดุเดือดอีก โดยชายลึกลับ ยังใช้ลีลาการหลบหลีกและปัดป้องการโจมตีของแวมไพร์ ด้วยกรงเล็บอันแหลมคมด้วยลีลาการโยกตัวหลบ และการหลบฉากได้อย่างคล่องแคล่วเร็วไวมาก รวมทั้งการใช้ ศอก ฝ่ามือ ขาปัดป้องการโจมตีของแวมไพร์ด้วยลีลาอันสวยงาม ดูยังกะหนังจีนกำลังภายในยังไงยังงั้น หรือเหมือนกับฉากการต่อสู้ในหนังไทยชื่อดังอย่างองค์บาก แต่แวมไพร์เอ กลับเป็นฝ่ายที่รู้สึกเหนื่อยอ่อนเพราะตามไล่ล่าจับตัวของชายลึกลับร่างเงินทองไม่ทัน แถมยังโดนพลังหมัดและศอกของชายลึกลับซัดไปหลายครั้ง

    แวมไพร์พยายามใช้กรงเล็บพุ่งทะลวงใส่ร่างของชายลึกลับหลายครั้งแต่ก็ต้องพบกับความเจ็บปวดและร้อนผ่าว เพราะแวมไพร์รู้สึกได้ว่าเหมือนกำลังสัมผัสอยู่กับแร่เงินบริสุทธิ์ที่พวกแวมไพร์หรือมนุษย์หมาป่าเมื่อได้สัมผัสจะร้อนแสบเจ็บปวดทรมาณถึงตายได้ มันจึงรีบเอามือออกจากร่างของชายลึกลับในทันที 

    “กะ แกะเป็นตัวอะไรกันแน่ว่ะ “

    แวมไพร์พูดขึ้นด้วยความหวาดกลัวและสงสัย

     

    ก่อนจะถูกพลังอันมหาศาลอย่างเหลือเชื่อของชายลึกลับร่างเงินทอง จับร่างของแวมไพร์เอโยน ไปกระแทกกับพื้น แล้วชายลึกลับก็พุ่งใส่ร่างของแวมไพร์อย่างเร็วไว พร้อมกับทิ่มวัตถุสีเงินเข้าใส่ร่างของแวมไพร์เออย่างจัง

    “อ๊าคคคค กะ กะ แก ฆ่าข้าได้ยังไงว่ะ “

    แวมไพร์เอร้องอย่างเจ็บปวดทรมาณ ก่อนที่ร่างของมันจะค่อยๆสลายหายไปกลายเป็นเถ้าธุลีถ่านไหม้อย่างเร็วไว

    “ฟุบ “

    “เป็นแค่แวมไพร์ ยังคิดจะมากำแหงกับเรา ขนาดอสูรหรือมารฉันก็กำจัดมาเยอะแล้ว “

    ชายลึกลับร่างเงินทองพูดจบก็วิ่งหายไปอย่างเร็วไว ด้วยความเร็วแสงเชียว

    เกิดแสงสว่างดุจดั่งสายฟ้า เคลื่อนที่ไปมาในเมืองปากน้ำจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนที่จะลอยหายขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างเร็วไว

     

    “ท่านค่ะ เราตรวจพบบางสิ่งที่มีพลังความเร็วไวมาก และเกิดปรากฎการณ์มีแร่หายากและพืชพันธ์เจริญงอกงามเกิดขึ้นมาเหมือนตอนที่มียอดคนนพเก้ามันปรากฎตัวขึ้นมาอีกแล้ว แต่คราวนี้ตรวจสอบพบที่อ.เมืองจังหวัดสมุทรปราการ ย่านปากน้ำค่ะ มีพลังความเร็วมากกว่า ๗๐๐ไมล์ต่อชั่วโมงเลยค่ะ “

    หญิงสาวคนหนึ่งใส่ชุดรัดรูปสีขาว อยู่ภายในห้องบังคับการอันลึกลับแห่งหนึ่งพูดขึ้น

    “ ตรวจสอบเหตุการณ์จากระบบแมททริกต์เฟรมเวิร์กดูหรือยัง “

    ชายรูปร่างกำยำสูงใหญ่พูดขึ้นอย่างมีอำนาจ

    “ กำลังตรวจสอบดูอยู่ค่ะ แต่ไม่พบร่างหรือใบหน้าของสิ่งนี้เลยค่ะ เห็นแต่เจ้าแวมไพร์และเหยื่อมนุษย์ของมัน ที่วิ่งหนีและนอนตายกันอยู่ค่ะ แต่ตรวจสอบจับภาพใบหน้า ลักษณะและรูปร่างของสิ่งแปลกประหลาดนี่ไม่ได้เลย “

    หญิงสาวคนหนึ่งใส่ชุดรัดรูปสีขาว อยู่ภายในห้องบังคับการอันลึกลับแห่งหนึ่งพูดขึ้น

     

    “แสดงว่ามันไม่มีแมลงมาร กับหนอนปีศาจและสไปไวรัสอยู่ในร่างกาย มันเป็นพวกมาจากนอกโลกอย่างแน่ๆ หรือเป็นพวกที่หลุดรอดจากการฝังระบบตรวจสอบของเราไปได้ยังไง “

    ชายรูปร่างกำยำสูงใหญ่พูดขึ้นอย่างโกรธเคือง

    “ในโลกนี้ยังจะมีมนุษย์หรือสัตว์ที่รอดการฝังระบบของเราได้อีกหรือ หรือจะเป็นพวกปฏิวัติโลก แต่ก็น่าจะไม่ใช่ ไม่งั้นมันก็เปิดฉากสู้รับกับเราร่วมกับพวกกลุ่มปฏิวัติโลกไปนานแล้ว แล้วมันเป็นอะไร มาจากไหนกันแน่ฮ่ะ ข้าสงสัยจริงๆเลย “

    ชายรูปร่างกำยำสูงใหญ่พูดขึ้นอย่างมีอำนาจ

    “ให้คนไปสืบตรวจสอบมาว่า มันเป็นอะไรและไอ้ยอดคนนพเก้ามันเป็นใครอยู่ที่ไหนกันแน่ “

    ชายรูปร่างกำยำสูงใหญ่พูดขึ้นอย่างจริงจังดุดัน

    ขณะที่อีกด้านหนึ่งของเมือง กำลังมีกลุ่มวัยรุ่นอันธพาลต่างต่อยตีกันอย่างรุนแรง แล้วทันใดก็ได้ปรากฎร่างของชายลึกลับที่ร่างแวววาวเป็นสีเงินทองมาปรากฎตัวขึ้น

    “ทะเลาะกันอีกแล้ว “

    ชายลึกลับพูดขึ้น

    “ เฮ๊ยมึงเป็นใครว่ะ มายุ่งอะไรกับเรื่องของพวกกู หรือว่ามึงอยากจะโดนด้วยเหมือนกัน “

    ชายวัยรุ่นคนหนึ่งพูดขึ้น

    “ เป็นนักเรียนอาชีวะ ปี๒ โรงเรียนอาชีวะเอกชนย่านบางจาก “

    ชายลึกลับพูดขึ้นเมื่อข้อมูลของวัยรุ่นคนนั้นปรากฎขึ้นมาจากแอพพลิเคชั่นจากระบบปัญญากายสิทธิ์ภายในร่างของเขา ได้แสดงข้อมูลต่างๆให้แก่ชายลึกลับผู้นี้

    “ มันยังทำหน้างงๆ กวนตีนอยู่ว่ะ เอาไงดีลูกพี่ “

    ชายวัยรุ่นอีกคนหนึ่งพูดขึ้น

     

    “เป็นนักเรียนมัธยม๓ โรงเรียนเอกชนเหมือนกัน นี่ริอยากเป็นอันธพาลตั้งแต่ยังเด็กเลยหรือนี่ “

    ชายลึกลับพูดขึ้นเมื่อดูข้อมูลของเด็กวัยรุ่นจากระบบปัญญากายสิทธิ์ภายในตัวของเขา จนรู้ข้อมูลของวัยรุ่นทั้งสองคนอย่างครบถ้วน

    “แล้วที่เหลือล่ะ “

    ชายลึกลับพูดขึ้น ขณะที่ระบบปัญญากายสิทธิ์ได้ทำการสแกนใบหน้าของวัยรุ่นอันธพาลประมาณ ๕๐คนอย่างละเอียด จนได้ข้อมูลมาครบถ้วน

    “นี่เป็นนักเรียนอาชีวะ กันทั้งนั้นเลยหรือ ส่วนใหญ่เป็นสายช่างกล ช่างอุต ช่างยนต์และช่างไฟฟ้าสินะ รู้สึกว่าพวกช่างกลจะเยอะมากเป็นพิเศษ มันอยู่กับโลหะวัตถุเลยไม่มีสำนึกแบบมนุษย์บ้างเลยใช่ไหม อย่างงั้นก็ต้องเจอกับวัตถุของแข็งก็แล้วกันนะ “

     

    “เล่นมันเลยพวก”

    แล้วเหล่าวัยรุ่นคนหนึ่งก็ปรี่เข้าโจมตีชายลึกลับด้วยหมัดอย่างเร็วไว แต่ถูกชายลึกลับจับทุ่มด้วยท่าแบบยูโด ในที่สุด

    “เฮ๊ย มันเป็นยูโดด้วย งั้นต้องเจอกับมวยไทยซะหน่อย กระทืบมันเลย “

    ชายวัยรุ่นหัวหน้าโจกพูดขึ้น

    แล้วร่างของชายวัยรุ่นคนหนึ่งก็พุ่งเข้าโจมตีชายลึกลับด้วยหมัดและเตะ แต่ก็ถูกชายลึกลับปัดป้องได้ด้วย ขายัน ยกขาขึ้นตั้งการ์ดแบบมวยไทย และใช้การผลักชายวัยรุ่นจนร่างกระเด็นล้มไปอย่างเร็วไว

    “เฮ๊ยมันเป็นมวยไทยด้วยโว๊ย งั้นก็ตะลุมบอนอัดมันเลย เก่งดีนักใช่ไหม “

    ชายวัยรุ่นหัวหน้าโจกพูดขึ้น

    แล้วเหล่าวัยรุ่นอันธพาลหลายสิบคนก็พุ่งโจมตีหมายจะจับร่างของชายลึกลับเพื่อลุมซ้อม แต่ก็ไม่สามารถจับร่างของชายลึกลับได้เลย เขาเคลื่อนไหวหลบอย่างเร็วไวและสวยงาม จนทำให้เหล่าวัยรุ่นพุ่งชนกันเอง และสะดุดขาของชายลึกลับล้มทับใส่กันพุ่งชนปะทะกันเอง

    แล้วชายลึกลับก็แสดงฝีมือการต่อสู้ด้วย ชั้นเชิงหมัด การผลักด้วยฝ่ามือ และการเตะเจาะยาง แต่เน้นการใช้หมัดมากกว่า เพราะเขาสามารถเคลื่อนตัวเข้าวงในของฝ่ายศัตรูได้อย่างเร็วไว ก่อนจะเริ่มทำการจับร่างของเหล่าวัยรุ่นหลายคนทุ่มลงไปนอนอยู่กับพื้นด้วยชั้นเชิงแบบยูโด และมวยไทย รวมทั้งใช้เทคนิคแบบกังฟูจีนโบราณแบบในหนังจีนกำลังภายในโบราณ อย่างมวยหย่งชุน ๑๘ฝ่ามือพิชิตมังกร และอรหันต์นิทรา ที่สามารถเข้าถึงตัวของเหล่าวัยรุ่นได้อย่างพิสดาร จนทำให้วัยรุ่นหลายคน เจ็บตัวและล้มลงไปนอนอยู่กับพื้นหลายคน

    “ปัง ปัง ปัง”

    ชายวัยรุ่นคนหนึ่งหยิบปืนขึ้นมายิงใส่ร่างของชายลึกลับ

    “ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว “

    แต่ชายลึกลับสามารถหลบลูกกระสุนปืนได้อย่างคล่องแคล่วเร็วไวมาก

    “ใช้อาวุธหรือ อย่างงั้นมือและแขนของแกอย่าใช้งานได้อีกเลย “

    ชายลึกลับพูดจบก็เคลื่อนที่เข้าโจมตีวัยรุ่นคนที่ยิงปืนอย่างเร็วไว ด้วยชั้นเชิงมวยไทยโบราณ ที่กระโดดขึ้นไปเหยียบเหนือยอดอก โดยเหยียบหน้าขา โคนขาของวัยรุ่น ขึ้นไปศอก หรือต่อยร่างของชายวัยรุ่น และถีบเข้าพับในของพวกวัยรุ่นอย่างเร็วไว และใช้ชั้นเชิงแบบมวยไทยโบราณในราชสำนัก        สมัยอโยธยาตอนกลาง ที่เก่งด้านการจับหักข้อมือ และจับทุ่มจับล๊อคข้อมือ แขนขาหัก และทุ่มอย่างชำนาญมากกว่ามวยไทยโบราณของราชสำนัก

    ในยุคใด และด้วยวิชามวยไทยอาคมพลังลิงลมโบราณ จนพวกวัยรุ่นต่างมองเห็นกันไม่ทัน

    “พลั่ก ปล๊อค “ 
    “โอ๊ยยย อ๊าคค ขะ ขะแขนกูหักหมดแล้ว มือกูด้วย โอ๊ยยยยไอ้เหี้ยเอ๊ย “

    ชายวัยรุ่นคนที่ยิงปืนนอนร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดอย่างทรมาณ เพราะแขนและข้อมือของเขาถูกจับหักอย่างเร็วไว

    “เฮ๊ย ฆ่ามันให้ได้ มันทำร้ายเพื่อนเราบาดเจ็บสาหัสแล้ว “

    ชายวัยรุ่นหัวหน้าโจกพูดขึ้น

    แล้วชายลึกลับก็เคลื่อนที่เข้าโจมตีร่างชายหัวโจกอย่างเร็วไว จนด้วยการชกใส่ปลายคาง การผลัก ถีบและตีศอกกลับอย่างเร็วไว  โดยเฉพาะการเตะสกัดขา เตะเจาะยาง 

    วัยรุ่นหัวโจกต้องลงไปนอนอยู่กับพื้นด้วยความเจ็บปวดทรมาณ เพราะขาและแขนของวัยรุ่นคนนั้นหักหมดแล้ว

    “โอ๊ยยยย อ๊าคคค เจ็บเหลือเกิน ช่วยกูด้วย แขนขาของกูหักหมดแล้ว จัดการมันให้กูด้วยนะ “

    ชายวัยรุ่นหัวหน้าโจกพูดขึ้น

    อย่างโกรธแค้นและเจ็บปวดทรมาณมาก

    แล้วฉากการต่อสู้อีกครั้งก็เกิดขึ้น พวกเหล่าวัยรุ่นต่างหาอาวุธ เหล็กยาว ไม้ยาวและมีดสั้นออกมาโจมตีใส่ร่างของชายลึกลับอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็มีความหวาดกลัวอยู่เหมือนกัน

     

    “เล่นอาวุธกันชุดใหญ่เลยนะ “

    พูดจบชายลึกลับก็ทำสิ่งอันแปลกประหลาดเกิดขึ้น คืออยู่ดีๆก็มีแท่งโลหะพวกเงินและทองคำบริสุทธิ์งอกมาจากร่างของชายลึกลับแล้วกลายเป็นกระบอง ค้อน 

    “เฮ๊ย มันเป็นไปได้ยังไงว่ะเนี่ย มันเป็นตัวอะไรว่ะ จัดการมันก่อนละกัน ไอ้ตัวประหลาด แล้วจะได้ยึดเอาของๆมันไปขายกัน “

    แล้วพวกวัยรุ่นอันธพาลทั้ง๕๐คนก็ต่างลุยใส่ร่างของชายลึกลับ แต่ร่างของชายลึกลับกลับเคลื่อนที่อย่างเร็วไว จนพวกเหล่าวัยรุ่นต่างงง และเหน็ดเหนื่อยกับการไล่ตามจับ 

    “เฮ๊ย ทำไมมันถึงว่องไวอย่างนี้ พวกข้าตามจับตัว ตามอัดมันไม่ทัน ไม่โดนเลยสักที “

    วัยรุ่นคนหนึ่งพูดขึ้น

    “ เอาละทีนี้เดี๋ยวจะขอลงโทษตีพวกเธอด้วยของแข็งหน่อยละนะ “

    ชายลึกลับพูดจบก็เคลื่อนกายอย่างเร็วไว ใช้กระบองกับฆ้อนฟาดใส่เหล่าวัยรุ่นหลายคนจนล้มลงไปนอนกับพื้นด้วยความเจ็บปวด อย่างทรมาณ กระดูกแขนขาแตกหักเสียหายกันหมด 

    “โอ๊ยยย เจ็บเหลือเกิน มันฟาดพวกกูด้วยกระบองกับค้อนจนแขนขากูหักหมดแล้ว ทีนี้พวกกูจะทำยังไงดีว่ะเนี่ย พิการแล้วสิกู “

    เหล่าวัยรุ่นหลายคนร้องเจ็บปวดทรมาณอย่างเศร้าเสียใจ

    “ไม่น่าไปยุ่งกับไอ้ตัวประหลาดนี่เลย “

    ชาววัยรุ่นคนหนึ่งพูดขึ้น

    “ตัวห่าอะไรก็ไม่รู้ ตามตัวนี้แวววาวเป็นสีเงินสีทองไปหมด แถมยังมีกระบองทอง กับค้อนเงินอีก โอ๊ยยเจ็บจริงๆเลยโว๊ย “

    ชาววัยรุ่นคนหนึ่งพูดขึ้น

    “เข็ดกันมั๊ยละ คราวนี้จงจำไว้ ว่าอย่าคิดเป็นอันธพาลอีก นี่ฉันปราณีแล้วนะ พวกแกเนี่ยถ้าไม่โดนอย่างนี้คงไม่หลาบจำ ฉันสงสารพ่อแม่ของพวกแกนะ ฉันจะช่วยค่ารักษาพยาบาลล่ะกัน เอานี่ไปจ่ายเป็นค่ายา ค่ารักษาพยาบาล และค่าหยุดพักนอนอยู่กับบ้านหลายเดือนกว่าจะหายดี แล้วไปเรียนกันได้ “

    พูดจบชายลึกลับก็โยนแท่งโลหะสองแท่งใหญ่วางเอาไว้ให้พวกเหล่าวัยรุ่นกัน

    “เฮ๊ย ทองคำแท้โว๊ยพวกเรา “

    เหล่าวัยรุ่นต่างดีใจมากที่มองเห็นทองคำแท่งยาวประมาณ๓เมตรวางอยู่ต่อหน้าของมัน

    “แต่กันขโมยจะมาเอาไปได้ “

    ชายลึกลับพูดจบก็บันดาลกรงขังเงิน ล้อมรอบตัวเหล่าวัยรุ่นอันธพาลและแท่งทองคำแท้อย่างแข็งแรงมั่นคง 

    “อีกไม่นานทั้งตำรวจกับรถพยาบาลก็จะมารับพวกแกนะ ทนไปก่อนละกัน “

    พูดจบชายลึกลับก็วิ่งหายไปอย่างเร็วไวดุจสายฟ้าในทันที

     

     

    “ผมเข้ามาในพื้นที่แล้วครับ กำลังทำการย้อนเวลาดูเหตุการณ์ในพื้นที่อยู่ครับ “

    ชายใส่สูทสีดำพูดขึ้น ขณะกำลังเดินตรวจสอบพื้นที่โดยทั่วในตรอกและตึกย่านนี้โดยรวม ซึ่งผู้คนที่อยู่ในบ้านต่างมีอาการหลับสงบนิ่ง บางคนที่ตื่นอยู่ก็มีอาการแข็งทื่ออย่างแปลกประหลาด

    “ย้อนเวลากลับไปก่อนหน้านี้อีก๕นาทีสิ”

    ชายใส่สูทสีดำพูดกับกลุ่มชายใส่ชุดรัดรูปสีน้ำตาล ที่กำลังทำอะไรบางอย่าง จนมีพลังแสงสว่างแผ่ออกมาจากร่างของชายคนหนึ่งในกลุ่มชายใส่ชุดสีน้ำตาล

    “ ไม่ปรากฏใบหน้าของมันอย่างชัดเจน สิ่งที่มันสวมใส่อยู่ช่วยปิดบังใบหน้าให้แก่มันเอาไว้ แต่ผิวหนังของมันแปลกมาก มีลักษณะคล้ายโลหะพวกทองคำและเงินแท้บริสุทธิ์อย่างเหลือเชื่อ 

     

     ชายใส่สูทสีดำพูดขึ้น

    “เอาล่ะ พวกนายแยกย้ายกันไปได้แล้ว ทางชั้นได้ข้อมูลพอสมควรแล้ว ปิดจ๊อบได้ “

    เสียงหญิงคนหนึ่งพูดขึ้น

    “โอเคทุกคนปิดจ๊อบ “

    ชายใส่สูทสีดำพูดขึ้น

     

    “แต่ก่อนไป ผมขอชาร์จพลังหน่อยได้ไหม “

    ชายใส่สูทสีน้ำตาลคนหนึ่งพูดขึ้น

    “เอาเลย จะเอาพลังวิญญาณจากมนุษย์คนไหนก็เลือกเอาสักคนจะได้รีบไปทำงานกันต่อ”

    ชายใส่สูทสีดำพูดขึ้น

    “เอาล่ะงั้นผมเอาชายคนนั้นดูเป็นคนมีบุญมาก “

    ชายใส่สูทสีน้ำตาลคนหนึ่งพูดขึ้น

    “แวบ “

    “ขอชั้นชาร์จพลังหน่อยนะไอ้อ้วนผู้ใจบุญ”

    ชายใส่สูทสีน้ำตาลคนหนึ่งพูดขึ้น

    แล้วทันใดก็เกิดสายบางอย่างงอกออกมาจากร่างของชายใส่สูทสีน้ำตาลแล้วจากนั้นก็เกิดแสงสว่างเกิดขึ้น โดยมีแสงบางอย่างไหลออกมาจากร่างของชายอ้วนใส่แว่นตาที่ยืนอยู่ที่หน้าต่างของอพาร์ทเม๊นอย่างแข็งทื่อ

    “ แป๊บบบบบ”

    “โอเคสบายตัวหน่อย พลังงานของฉันกลับคืนมาดังเดิมแล้ว “

    ชายใส่สูทสีน้ำตาลคนหนึ่งพูดขึ้น

     

    “ถ้างั้นก็แยกย้ายกันไปทำงานต่อหรือไปพักผ่อนกันได้แล้ว “

    ชายใส่สูทสีดำพูดขึ้น

     

    แล้วทันใดนั้นเหล่ากลุ่มชายลึกลับเหล่านี้ก็หายตัวไปอย่างเร็วไว

    “แวบบบ”

     

    ขณะนั้นเอง บนท้องฟ้าเหนือน่านฟ้าของจังหวัดสมุทรปราการของประเทศไทย

     “อีก๓๐นาทีกำลังจะเข้าใกล้เขตย่านคลื่นความถี่ของอินเตอร์เน๊ตแล้วค่ะท่านนายพล “

    เจ้าหน้าที่สาวคนหนึ่งของยานบินลึกลับที่ใช้ระบบอำพรางตัวทำให้สิ่งต่างๆบนโลกไม่สามารถรับรู้การมีอยู่และการเดินทางมาของยานบินลึกลับลำนี้ได้

    ซึ่งกำลังบินเข้ามาในเขตน่านฟ้าของประเทศไทย ในระดับความสูงชั้นบรรยากาศของโลกทีละระดับชั้น โดยบินไต่ระดับลงมาเรื่อยๆอย่างช้า ๆเพื่อป้องกันการตรวจสอบของบางสิ่งบางอย่างบนโลกได้ ขณะที่มีแสงไฟกระพริบตามข้างลำตัวยานในจุดต่างๆอย่างสวยงามหลายจุด ซึ่งแสดงถึงห้องพักของผู้ที่อาศัยอยู่บนยานบินอันลึกลับลำนี้ด้วย

     

    “เราผ่านย่านสัญญาณคลื่นความถี่ตาข่ายมารและเขตอาคมมารมาได้แล้วค่ะท่าน ระบบของพวกมันตรวจจับยานของเราไม่ได้ค่ะ “

    เจ้าหน้าที่สาวอีกคนพูดขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่คนอื่นๆอีกหลายคนภายในห้องบังคับการแห่งนี้ก็ยังคงทำงานส่วนของตัวเองไปอย่างจริงจัง กระตือรือร้นกันทุกคน

     

    “รักษาระดับความเร็วเอาไว้แค่ ๒๐กิโลเมตรต่อชั่วโมงนะเบิร์ด เอ๊กส์กำชับเรื่องเสียงภายในยานและปรับระดับเสียงของอุปกรณ์ต่างๆรวมทั้งเครื่องยนต์ให้เบาที่สุดด้วย อย่าให้มีเสียงดังเกินกว่า ๒๐เดซิเบลเล็ดรอดออกมาได้นะ “

    เจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ชายอีกคน

     

    “ดีมาก ยอดเยี่ยมมากเลยทุกคน ต้องพยายามบินให้เงียบๆและทำเสียงให้เบามากที่สุดแบบนี้แหละ ดีแล้ว เอาล่ะ ถ้าเข้าใกล้เขตสัญญาณอินเตอร์เน็ตบนโลกแล้ว ก็ส่งทีมคอมมันโดบุกเข้าไปในโลกและโลกไซเบอร์ของพวกมนุษย์ได้เลย                                           แล้วทำการถอดโปรแกรมสไปไวรัสในร่างของพวกมนุษย์ที่ออนไลน์อยู่ด้วย “

    นายพลพูดขึ้น

     

    “ท่านนายพลค่ะ พบสิ่งแปลกปลอมคล้ายเป็นพวกโดรน หรือหุ่นพยนต์ของพวกมาร กำลังบินเข้ามาใกล้เราค่ะ จะให้ทำยังไงดีค่ะท่าน “

    เจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น

     

    “ ขับยานบินหลบไปก่อน อย่าเพิ่งเข้าไปในเขตสัญญาณอินเตอร์เน๊ต เลี่ยงการปะทะกับพวกมันออกไปก่อน ยังไม่อยากเปิดฉากกับพวกมันในตอนนี้ “

    นายพลพูดขึ้น

    ขณะที่โดรนและหุ่นพยนต์ กำลังบินหรือเหาะตรวจการพื้นที่บนน่านฟ้า เพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมนอกโลก

     

    “ท่านค่ะ ดูเหมือนพวกมันจะเจอเป้าหมายใหม่ ที่กำลังพุ่งเข้ามาในชั้นบรรยากาศด้วยความเร็วมากแล้วค่ะ  ค่าพลังงานแฝงของวัตถุนี้มีมากกว่า ๓ล้านโวลต์และ ๕,๐๐๐แรงม้า  มีลักษณะคล้ายมนุษย์แต่มีสิ่งที่สะท้อนแสงแวววาวออกมาจากร่างกายคล้ายกับโลหะพวกแร่เงินหรือทองคำมากเลยค่ะท่าน หรือว่าจะเป็นอย่างที่เขาเล่าลือกันว่า เป็น ยอดคนนพเก้า ฮีโร่ลึกลับของโลกมนุษย์หรือเปล่าค่ะ “

    สิ่งที่สาวคนนั้นพูด กำลังบินพุ่งตัวเข้ามาปะทะกับโดรนและหุ่นพยนต์ของพวกสิ่งชั่วร้ายที่ทรงอำนาจบนโลก อย่างเร็วไว ด้วยความเร็วที่มากกว่า ๓หมื่นไมล์ต่อชั่วโมง 

    สิ่งนั้นใช้วัตถุบางอย่างที่เหมือนกับทองคำและเงิน โจมตีทำร้ายโดรนและหุ่นพยนต์อย่างเร็วไว ซึ่งเจ้าหุ่นพยนต์ก็ได้แสดงฤทธิ์ทำการต่อสู้ป้องกันโดรน อย่างดุเดือด แต่ในที่สุด ก็มีสิ่งของบางอย่างที่เรืองแสงแวววาวดุจดั่งทองคำ ลอยออกมาอีกทาง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับจักร พุ่งชนใส่โดรนได้ในที่สุดและมีมือยักษ์สีทองปรากฏขึ้นมา จับร่างของหุ่นพยนต์บีบจนเละแบน จนโดรนและหุ่นพยนต์เสียหายพังร่วงหล่นลงไปยังพื้นโลกในทันที

    “ตูม “

    “วิ้ว วิ้วๆ “

    แล้วโดรนกับหุ่นพยนต์ ก็ร่วงลงไปยังโลกในที่สุด

    “ดูเหมือนสิ่งนี้จะช่วยเหลือพวกเรานะค่ะท่านนายพล “

    เจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น

    “ดีแล้ว ถ้าเขาเป็นมิตรกับพวกเรา เราก็อย่าไปกังวลอะไรเกี่ยวกับเขามาก “

    นายพลพูดขึ้น

     

    แล้วยานบินลึกลับก็เริ่มลอยลงมาเข้าสู่ชั้นอินเตอร์เน็ตของโลกดังเดิม

     

     

    ขณะที่บนโลกก็บังเกิดแสงสว่างไสวของยามราตรีอันสวยงาม ที่สังคมในเมืองยังคงมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังเฟื่องฟูจากกิจกรรมการบริโภคภายใน การส่งออก

     

     โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว แม้ว่าการส่งออกของผลไม้อย่างทุเรียนจะลดน้อยลง ในกรณีที่ส่งไปยังประเทศจีน เพราะเจอคู่แข่งอย่างประเทศเวียดนาม มาเลย์เซีย อินโดนีเซีย จีนไหหลำ อิสราเอล ออสเตรเลีย คองโก แอฟริกาใต้ อินเดีย และฟิลิปินส์ 

     

    “โอ้โห นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศมาเที่ยว เยาวราชกับตลาดนัดจตุจักร และหาดป่าตองกันเยอะขนาดนี้เลยหรือเนี่ย น่าไปเที่ยวบ้างจังเลยนะที่รัก “

    ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น เมื่อได้ดูภาพข่าวการท่องเที่ยวจากทางเว็บไซต์ 

    “ตั้งแต่รัฐบาลลุงตู่ได้บุกเบิกโครงการเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่น “ โทคาแมค” ที่จังหวัดนครปฐม ในช่วงปี๒๕๖๕ และนครนายก ชลบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีแห่งแรกคือนครปฐม เอาไว้ให้ไทยเราได้มีพลังงานไฟฟ้าแบบสะอาดไร้มลพิษในราคาถูก และมีชมรมชื่อดังนั่น แข่งทำโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ฟิวชั่น โรงงานผลิตไฟฟ้าไฮโดรเจนจากน้ำ และโรงงานผลิตไฟฟ้าแบบชีวมวลหลายชนิดเลย อีกหลายสิบแห่งทั่วประเทศ ก็ทำให้ไทยเรามีแหล่งพลังงานสะอาดในราคาถูกมากกว่าเดิมสิบเท่าเลยนะ

     โดยเฉพาะพลังงานชนิดเอทานอลจากต้นจาก สาคู ลูกเตยทะเล กล้วย ไผ่ ที่เอามาหมักทำแอลกอฮอร์ได้ในราคาต่ำ กับน้ำว่านหางจระเข้พันธ์ยักษ์ ที่เอามาหมักทำเอทานอลราคาถูก ร่วมกับข้าวฟ่างหวาน ลูกมะขวิด ก็สามารถนำเอามาหมักทำเอทานอลในราคาถูกได้อย่างสบายเช่นกัน และยังทำให้เกิดระบบนิเวศน์สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยเฉพาะเอทานอลจากต้นจาก ต้นมะพร้าว ฝรั่ง และตาลสายพันธ์เอทานอล และสายพันธ์ไบโอดีเซล ที่ทางรัฐบาลได้ให้ม.เกษตรศาสตร์ได้พัฒนาสายพันธ์นี้ขึ้นมาสำหรับประเทศไทยโดยตรง รวมทั้งขนุนสายพันธ์เอทานอลด้วยที่มีค่าความเป็นน้ำตาลสูงมาก จึงเหมาะแก่การนำเอามาทำเป็นพลังงานเอทานอลในราคาถูกได้ “

    ชายหนุ่มพูด 

    “จ้าเดียร์ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะซื้อไปให้นะ กางเกงในหรือผ้าอนามัยนะ หรือถุงยางอนามัย “

    สาวน้อยที่อยู่ในห้องเดียวกันกับชายหนุ่มพูดขึ้น

    “นี่อีแจน กูบอกว่าให้ฝากซื้อหน้ากากอนามัยมาให้ด้วย ไม่ใช่ผ้าอนามัยหรือถุงยางอนามัย ถุงยางกูจะเอามาทำไม ผัวกูยังไม่มีเลย จะให้กูเอาไปใส่xหมา แล้วเอาหมาทำผัวกูหรืออีห่า   “

    เพื่อนสาวในสายของสาวน้อยภายในห้องพูดขึ้น อย่างขำๆ

    ชายหนุ่มยังคงพูดต่อไปเพราะไม่คิดว่าแฟนสาวของตนเองคุยโทรศัพท์อยู่ ในระหว่างที่ชายหนุ่มเดินพูดไปและดูมือถือไปด้วย

    “โดยจะเลือกเก็บเอาเฉพาะลูกขนุนที่สุกเต็มที่ เพราะจะมีระดับน้ำตาลสูงมาก กับลูกขนุนและฝรั่งที่เน่าเสียแล้ว หรือหล่นจากต้น ก็เอามาหมักทำแก๊สหุงต้ม และแก๊สผลิตไฟฟ้าได้อีกทีนึง ประเทศไทยเราจึงมีต้นขนุน มะพร้าว  ฝรั่ง ตาล สาคูและต้นจากเกิดขึ้นไปทั่วบ้านทั่วเมืองเลย ทำให้เกิดความเขียวขจีสร้างฝนและแหล่งน้ำสะอาดให้แก่คนไทยและสัตว์ป่าไปทั่วเลย “

    ชายหนุ่มพูดขึ้น

    “ ทำไมมีพืชที่เอามาทำเป็นเอทานอลได้แค่นี้หละ แล้วมันสำปะหลัง อ้อยกับข้าวโพดหล่ะ หรือพวกข้าวนะก็ทำได้ไม่ใช่หรือ “

    สาวน้อยแฟนของชายหนุ่มพูดขึ้น

    “ ก็ใช้ได้แต่มันเป็นพืชไร่ เป็นการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ซึ่งทำให้เกิดการทำลายป่า ต่างจากพืชสวน และพืชที่ให้ผลอย่างยั่งยืนตลอด โดยปลูกเพียงแค่ครั้งเดียว ก็สามารถให้ผลผลิตได้ไปตลอด ไม่ต้องปลูกใหม่หลายรอบ ไม่เปลืองปุ๋ย และพลังงาน รวมทั้งไม่เปลืองน้ำบ่อยๆด้วย

    และการใช้มันสำปะหลัง อ้อยกับข้าวโพดรวมทั้งข้าว เพื่อผลิตพลังงานนั้นก็เป็นการทำให้ต้นทุนพืชอาหารมีราคาแพงมากขึ้น มีการแย่งวัตถุดิบระหว่างฝ่ายการนำเอามาทำเป็นอาหารกับฝ่ายที่ต้องการใช้ผลิตพลังงานสูงมาก และส่งผลต่อความขาดแคลนอาหารของประชากรโลกด้วย แถมยังทำให้มีการทำลายป่าไม้ ที่อุดมสมบูรณ์ของไทยและโลกเราไปมากเพื่อการทำพืชไร่นะ “

    ชายหนุ่มพูดอธิบาย

    “อ๋ออย่างนี้เองหรือ แล้วอย่างนี้จะมีพืชตัวอื่นอีกไหมล่ะ ที่เราจะสามารถนำเอามาผลิตพลังงานได้อย่างยั่งยืน “

    สาวน้อยพูดขึ้น

     

     “มีสิก็ยังมีลูกชำมะเรียงที่มีรสหวานเป็นพืชไม้ป่าชายเลน ให้ผลผลิตไปหลายสิบปี เพียงแค่ปลูกครั้งเดียว เป็นไม้ยืนต้นๆสูงประมาณ ๑๕เมตรไม่เกิน๒๐เมตรได้             เอามาหมักทำแอลกอฮอร์ได้ สาเกมีคาร์โบไฮเดรตสูง สามารถกินได้และหมักทำแอลกอฮอร์ได้คุณภาพสูงเช่นกัน ต้นสูงไม่เกิน๓๐เมตร ให้ผลผลิตเกือบทั้งปี มะม่วงหล่น ที่เน่าเสีย ตามสวนมะม่วง ลูกลำพูลำแพน ลูกมะดัน มะกอกน้ำ มะนาวแป้น  ส้มจี๊ด เชอร์รี่ทะเล  ที่มีรสเปรี้ยว เอามาหมักทำแอลกอฮอร์ได้มีต้นทุนต่ำ ลูกตะโก มีรสหวานก็เอามาหมักทำเอทานอลได้เช่นเดียวกัน เป็นไม้ป่าชายเลน    ลูกขนุนเน่า ที่ตกหล่นในสวน ผักกาดหวาน ฟักทองสายพันธ์เอทานอล ต้นถั่วบราซิล ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นสูงใหญ่ผลมีเปลือกหนาแข็งแรงมาก ลูกมะเดื่อ ลูกกล้วยเห็น(ใช้รักษาโรคเอดส์กับมะเร็งได้เป็นไม้ยืนต้น หรือที่กล้วยเรียกว่ากล้วยลิง ออกผลสีเหลือง กินอิ่มท้อง มีคาร์โบไฮเดรตมาก เช่นกัน )  ลูกต้นกระบองมีรสหวาน     ลูกตาลเน่าเสีย น้ำหวานจากจั่นต้นตาล และน้ำตาลจากต้นมะพร้าวสายพันธ์เอทานอล กับเห็ดเอทานอล ที่ทางกระทรวงเกษตรได้สั่งให้ม.เกษตรได้วิจัยพัฒนาสายพันธ์ขึ้นมาโดยเฉพาะเลย เพื่อผลิตเอทานอลราคาถูกจากพืชเหล่านี้ “

    ชายหนุ่มพูด

     

    “ นี่เธอ รู้มากขนาดนี้เลยหรือเนี่ย ไม่ยักจะรู้มาก่อนว่าแฟนเราก็มีความเป็นนักวิชการกะเขาเหมือนกันนะเนี่ย นึกว่าจะมีแต่ความหล่อ เจ้าชู้ ขับรถเก่ง และเล่นหุ้นเก่ง ขายออนไลน์เก่งอย่างเดียวซะอีก แถมตดเหม็นเสียงดังอีกด้วย “

    สาวน้อยพูดขึ้นอย่างขำๆ

     

    “ นี่ถ้าจะชมก็ชม อย่ามาเนียนแอบทำมาด่าผสมกันไป “

    ชายหนุ่มพูดขึ้น

    “แล้วเรื่องตดมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ เธอก็ตดเหม็น และเหม็นมากเหมือนกัน เพราะเธอชอบกินเนื้อสัตว์พวกไก่ พวกหมูเนี่ย กินมากมีสารโปรตีนมาก แล้วก็ไม่ค่อยขับถ่าย ก็เลยหมักหมมกลายเป็นก๊าซมีเทน เป็นตดเหม็นเน่า เหมือนขี้เน่ามาหลายสิบวันเลย “

    ชายหนุ่มพูด

    “โหย ได้ทีก็ว่าฉันใหญ่เลยนะ น่าจะเอาขี้คนไปทำแก๊สหุงต้ม หรือผลิตไฟฟ้าบ้างนะ “

    สาวน้อยพูดขึ้น

    “ก็มีนะในคุกบางขวาง และบางพื้นที่ของต่างประเทศและในประเทศเราก็มี แต่ไม่นิยมกันนะ “

    ชายหนุ่มพูดขึ้น

     

    ขณะที่ในป่าดงดิบหนาทึบ อีกแห่งหนึ่ง

    “ มีอมนุษย์กำลังจะเข้ามาแถวนี้หรือนี่ “

    ชายในชุดขาวซึ่งกำลังนั่งสมาธิอยู่ในกลด ใต้ต้นมะค่าขนาดใหญ่ 

    ได้พิจารณาด้วยญาณวิเศษจึงรู้ว่าจะมีอมนุษย์เข้ามาทำร้ายตน

    “ฮิๆๆ เจ้านักบวชผู้โง่เขลา เจ้าไม่รู้เลยหรือไร ว่าในแถบนี้มันคือถิ่นหากินของข้า ฮิๆๆ “

    เสียงอันเยือกเย็นและน่ากลัวของหญิงชรานางหนึ่งดังลอยเข้ามาในบริเวณรอบกลดที่ชายในชุดขาวกำลังปักกลดพักแรมบำเพ็ญธรรมอยู่ ซึ่งรายล้อมไปด้วยป่าอันหนาทึบ มีต้นไม้สูงใหญ่ขึ้นอย่างมากมาย โดยเฉพาะต้นมะค่า ต้นกระบก ต้นสัก ต้นยางนา และต้นค้อ ที่ขึ้นสูงตระหง่านดูน่ากลัวมาก

    “เจ้าอมนุษย์ผู้หลงในกิเลส เจ้าจงไปทางอื่นเสียเถิด อย่าได้มารบกวนการบำเพ็ญบุญสร้างบารมีของเราเลย เราไม่อยากมีปัญหากับเจ้าหรอกนะ “

    ชายในชุดขาวพูดขึ้นอย่างสุภาพ

    “ฮิ ๆ เจ้าคิดว่าข้าจะสนใจด้วยเหรอกับการมานั่งหลับตาของเจ้านะ มามะ มาเป็นอาหารให้ข้ากินซะดีกว่า “

    เสียงของหญิงชรานางนี้พูดขึ้น แล้วพลันก็ปรากฎร่างของหญิงชราท่าทางน่ากลัว เพราะแต่งกายด้วยชุดสีดำ มีผมยาวสยายรุงรังน่ากลัว และมีใบหน้าอันเหี่ยวย่นแก่ชรามาก แต่มีกรงเล็บและเขี้ยวอันแหลมคมงอกมาจากริมฝีปากด้วย 

    “ พูดกันดีๆคงไม่รู้เรื่องสินะ “

    ชายชุดขาวพูดจบก็หลับตาแล้วกำหนดจิตเป็นสมาธิ

    “ฮิๆ ข้าจะควักใส้ของแกออกมากินบัดเดี๋ยวนี้แหละ “

    นางปอบพูดจบก็เคลื่อนกายลอยไปในอากาศเหนือพื้นดินประมาณ ๕๐เซ็นติเมตร ก่อนจะลอยเข้าไปใกล้เขตกลดของชายในชุดขาว

    “ฟั่บ “

    กรงเล็บอันแหลมคมของนางผีปอบพุ่งเข้าใส่ร่างของชายในชุดขาว แต่ชายในชุดขาวก็สามารถหลบหลีก และปัดป้องกรงเล็บของนางปอบร้ายได้ด้วยฝ่ามืออันทรงพลัง

    “พลั่ก “

    “อ๊าคคคค “

    เสียงนางปอบร้องด้วยอาการเจ็บตัวเล็กน้อยเมื่อโดนพลังฝ่ามือของชายชุดขาวซัดให้

    “ ออ มีฝีมืออยู่เหมือนกันหรือนี่ ไอ้แก่ “

    นางปอบพูดขึ้น หลังจากสามารถลอยตัวกลับมาได้ใหม่

    “ ถ้างั้นคงจะต้องสั่งสอนเจ้าสักหน่อยแล้วล่ะ “

    ชายชุดขาวพูดจบก็ลอยตัวออกไปจากกลด ไปประจัญหน้านางปอบร้ายในทันที

    “คราวนี้แกไม่รอดมือข้าไปได้หรอก “

    นางปอบพูดจบก็ใช้กรงเล็บอันแหลมคมพุ่งใส่ร่างของชายชุดขาวอย่างเร็วไว แต่ชายชุดขาวก็สามารถหลบหลีกและปัดป้องนางปอบร้ายได้ด้วยชั้นเชิงยุทธ์ ดุจดั่งหนังจีนกำลังภายใน และหนังไทยแนวองค์บากยังไงยังงั้น 

    “ผั่วะ ๆ “

    “พลั่ก “

    การต่อสู้ด้วยชั้นเชิงยุทธ์อันรวดเร็วและสวยงามของชายชุดขาวยังเป็นไปอย่างนิ่มนวล แต่ทรงพลัง

    “โอ๊ยยย “

    นางปอบร้องขึ้นเมื่อโดนพลังฝ่ามือของชายชุดขาวซัดเข้าที่หน้าอกอย่างจัง

    “แกมีฝีมือยุทธ์มากขนาดนี้ น่าจะไปเอาดีในการต่อยมวยนะ ท่าจะได้แชมป์โลกอย่างแน่นอน ไม่น่าจะมาเสียเวลากับการนั่งหลับตาอยู่ในป่าแห่งนี้เลย “

    นางปอบพูดขึ้น

    “เรานะหยุดแล้ว พอแล้ว เรากำลังมุ่งมั่นตั้งใจมาเดินในทางแห่งองค์ตถาคต เพื่อออกบำเพ็ญบุญและโปรดสัตว์ที่กำลังลำบากอยู่ เช่นเดียวกับเจ้ายังไงล่ะ นังปอบ เราจะช่วยทำให้เจ้ากลับไปเป็นมนุษย์ดังเดิม เจ้าจะได้ไม่ต้องก่อกรรมทำบาปสร้างภัยให้แก่ใครเขาอีก”

    เมื่อชายชุดขาวพูดจบ ร่างของชายชุดขาวก็ลอยเข้าไปหาร่างของนางปอบอย่างเร็วไว จนนางปอบร้ายตั้งตัวแทบไม่ทัน 

    แล้วฝ่ามืออันแข็งแกร่งทรงพลัง ก็แตะลงบนศีรษะของนางปอบร้ายอย่างเร็วไวและรุนแรงมาก จนนางปอบไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายไปไหนได้ หรือแม้แต่จะขัดขืนต่อสู้ก็ทำไม่ได้

    “อย่าได้พยายามดิ้นรนให้เสียพลังอย่างเปล่าประโยชน์ไปเลย เราได้สะกดพลังของเจ้าเอาไว้หมดแล้ว ตั้งแต่ตอนสู้กับเจ้าในคราแรก เมื่อมนต์ดำและเหล่าวิญญาณร้ายไม่มีอยู่ในตัวเจ้าแล้ว เจ้าก็จะกลับไปเป็นมนุษย์ดังเดิมนะ “

    ชายชุดขาวพูดจบก็เพ่งจิตส่งคลื่นพลังบางอย่างเข้าไปยังร่างของนางปอบจนเกิดควันสีดำพวยพุ่งออกจากร่างของนางปอบ พร้อมๆกับกลุ่มแสงดวงวิญญาณอย่างมากมายก็หลุดลอยออกไปจากร่างของนางปอบจนร่างของนางปอบเริ่มเปลี่ยนสภาพกลายเป็นหญิงชราวัย ๖๐ปีนางหนึ่ง ที่มีผิวพรรณผุดผ่อง และมีเนื้อหนังมากขึ้น กรงเล็บและเขี้ยวอันแหลมคมได้หายไป แต่กลับมีอักขระยันต์วิเศษไปอยู่ที่ด้านหลังและที่หน้าผากของหญิงแก่คนนี้แทน

    “เอาล่ะต่อไป เจ้าจะไม่สามารถใช้มนต์ดำ และไม่มีวิญญาณอันชั่วร้ายใดๆมาอาศัยสิงสู่ร่างเจ้าไม่ได้อีกแล้วนะ “

    ชายในชุดขาวพูดขึ้น

    “ขอบคุณท่านนักบุญมากจ้า แต่ฉันจะทำยังไงดี นี่ก็เป็นป่าใหญ่ และฉันก็ไม่มีเงินทองอะไรในการดำรงชีพเลย แล้วฉันจะทำอย่างไงต่อไป “

    หญิงชราพูดขึ้น

    “ไม่เป็นไร เจ้าจงเดินออกไปจากตรงที่นี้ในตอนเช้า แล้วมุ่งไปที่ต้นตะเคียนใหญ่ทางทิศตะวันออก แล้วขุดดินใต้ต้นตะเคียนใหญ่นั้นแล้วเจ้าจะเจอทรัพย์สินอันมีค่าพอควร ที่ช่วยให้เจ้าสามารถไปตั้งตัวได้ใหม่อย่างสบาย แต่บอกกล่าวต่อนางตะเคียนเขาก่อนนะ แล้วนำทรัพย์สินบางส่วนทำบุญอุทิศไปให้แก่วิญญาณของนางตะเคียนเจ้าของทรัพย์สินนั้นในชาติก่อนด้วยนะ “

    ชายในชุดขาวพูด

    “แต่คืนนี้เจ้าจงนอนพักอยู่ใต้ต้นมะค่านี่ก่อน เราจะสร้างเขตอาคมและก่อกองไฟให้เจ้าได้พักอาศัยหลับนอนได้อย่างปลอดภัยในคืนนี้ไปก่อน “

    ชายในชุดขาวพูดขึ้นอย่างนุ่มนวล

    “ สาธุยินดีกับบุญของท่านนักบุญด้วยจ้า “

    ชายลึกลับแต่งกายในชุดสีเขียว ยืนอยู่บนยอดไม้ใหญ่คือต้นยางนานั่นเอง ซึ่งเขาได้มองดูเหตุการณ์นี้มานานมากแล้ว

    “แวบบ”

    แล้วชายลึกลับนี่ก็หายวับไปอย่างเร็วไวดุจดั่งสายฟ้า

    แล้วในท้องฟ้ายามราตรี ก็ได้ปรากฏร่างของชายลึกลับมีแสงแวววาวด้วยแสงแห่งเงินทอง เปล่งประกายออกมาจากร่างกายของเขา กำลังเหาะทยานไปในท้องฟ้ายามเดือนเพ็ญอย่างสนุกสนานเบิกบานก่อนจะลอยไปหยุดอยู่บนยานบินลึกลับที่สามารถลอยอยู่ในอากาศได้แบบเครื่องเอฟ๑๘ของสหรัฐอเมริกา แต่รูปทรงของยานลำนี้ ช่างดูเหมือนเรือสำเภาโบราณมากเลย

    ชายลึกลับได้เข้าไปนั่งพักผ่อนบนยานลึกลับลำนี้อย่างสบายใจ

     

     

     

    ขณะที่ในเมืองหนึ่งทางภาคอีสานของไทย

    ณ บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านไม้หลังคามุงหญ้าแฝกและเศษเปลือกไม้แก่นไม้ผสมปนเปกันไปบ้าง โดยเลือกไม้ที่ปลวกไม่ค่อยชอบกิน อย่างไม้สัก ไม้กระบก ไม้เต็ง

    โดยมีการทาน้ำมันยาง น้ำมันสน น้ำมันเครื่องและน้ำมันมะพร้าวเอาไว้ก่อน เพื่อไม่ให้ปลวกมันมากินเนื้อไม้ได้และยังช่วยป้องกันพวกงูอีกด้วย เพราะพวกงูจะเกลียดกลิ่นของน้ำมันจากพืช น้ำมันก๊าด (เพราะมันรู้ว่าจะถูกจับผัดเผ็ดกระเพราเนื้องูนะสิ)

    “พ่อจ้า พรุ่งนี้พ่อจะไปทำสวนหรือไปเข้าป่าหาน้ำผึ้งก่อนจ้ะ”

    เมียสาวพูดขึ้น

    “ ก็ว่าจะไปหาน้ำผึ้งก่อนนะ เพราะที่ตลาดเห็นเฮียซ้งเขาบอกว่าลูกค้าต้องการมาก กำลังขาดตลาด โดยเฉพาะน้ำผึ้งป่าจากต้นยางนาเนี่ย บำรุงดีมากเลย เพราะพวกผึ้งมันมีน้ำหวานจากต้นมะพร้าว ลิ้นจี่ มังคุด ขนุน และกล้วย รวมทั้งพวกสมุนไพรที่ชาวบ้านเขาปลูกกันมากขึ้นเพื่อเอาไว้ขาย พวกผึ้งมันเลยได้รับน้ำหวานที่มีสารสมุนไพร ที่มีคุณค่าสูงกลับมาด้วย ก็เลยออกฤทธิ์ดีมาก เวลาเอาไปทำยาหรือพวกอาหารเสริม “ 

    สามีพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม

    “งั้นเราก็นอนกันได้แล้วนะ พรุ่งนี้พี่จะได้ตื่นแต่เช้า “

    เมียพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม ก่อนจะปิดประตูห้องนอน

    “ปัง ปัง “

    “โครม “

    “เฮ๊ย มันตัวอะไรนะพี่ มันหล่นลงมาจากหลังคาบ้านเราน่ะ “

    หญิงสาวพูดขึ้น

    “อะไรกันนี น้องรัก เกิดขึ้น เสียงดังโครมครามเอะอะ โวยวายใหญ่เลย “

    เสียงสามีพูดขึ้น

    “นั่นไงพี่เห็นในห้องครัวหลังบ้านมั๊ยล่ะ มันมีตัวอะไรหรือใครก็ไม่รู้ พังตกลงมาในห้องครัวของเราน่ะ “

    เมียสาวพูดขึ้น

    “เอจริงๆด้วยสิ เดี๋ยวพี่จะหยิบปืนยาวกับมีดพร้าเอาไปด้วย เผื่อเป็นโจร จะได้จัดการกับมันเลย ไม่รู้จักยอดพรานนัทซะแล้ว “

    สามีพูดแล้ว

    แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ก็ได้ปรากฏร่างของปีศาจร้ายดูน่ากลัวมาก เพราะมันตัวสีดำทมึนและมีเขี้ยวกับกรงเล็บแหลมคมยาวน่ากลัวมาก พวกมันได้ฆ่าสองสามีภรรยาแล้วก็กัดกินเลือดเนื้อของสองสามีภรรยาอย่างเหี้ยมโหดแล้วก็แปลงร่างกลายเป็นสองสามีภรรยาไปโดยฉับพลัน

       

    “ท่านนายพลค่ะ พวกปีศาจได้แฝงตัวปลอมเป็นพวกมนุษย์เข้ามาอาศัยปะปนอยู่ในสังคมของมนุษย์อีกแล้วท่าน จะให้ทำอะไรมั๊ยค่ะ “

    หญิงใส่ชุดรัดรูปสีขาวพูดขึ้น ขณะนั่งอยู่ในห้องบังคับการอันล้ำยุคแห่งหนึ่ง

    “ไม่ต้อง ปล่อยให้พวกปีศาจมันกระทำการไป มันอยู่ในแผนของท่านพญามารอยู่แล้ว ไม่ต้องเข้าไปแทรกแซงอะไรทั้งนั้น “

    ชายรูปร่างกำยำ สูงใหญ่แต่งกายภูมิฐานมากได้พูดขึ้น แล้วก็เดินไปดูที่หน้าต่างมองลงไปด้านล่างของโลกภายนอก ที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องของสังคมเมืองในกรุงเทพมหานครนั่นเอง ย่านสาธรสีลมของประเทศไทย

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น